บทนำสู่การเทรด Grid

การเทรด Grid คืออะไร

การเทรด Grid คือ เครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยทำการซื้อ/ขายคริปโตโดยอัตโนมัติภายในช่วงเวลาและราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า การเทรด Grid มักจะทำงานได้ดีที่สุดในตลาดที่มีความผันผวนสูง เมื่อราคาเกิดการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาที่กำหนด ในสถานการณ์นี้เอง การเทรด Grid จะพยายามทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาเพียงเล็กน้อยดังกล่าว

การเทรด Grid สามารถช่วยทำการเทรดอย่างสมเหตุสมผลได้ โดยในทางปฏิบัติแล้ว บอทสำหรับการเทรด Grid (Grid Trading Bot) จะดำเนินการสร้างชุด Order สำหรับซื้อ/ขายภายในช่วงราคาที่เปลี่ยนแปลงไปต่างๆ ตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อทำการ “ซื้อในราคาถูก” และ “ขายในราคาแพง” ดังที่เห็นว่าการดำเนินการนี้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติตามพารามิเตอร์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า นักเทรดจึงสามารถตัดความรู้สึกส่วนตัวออกจากการเทรดได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนโดยไม่จำเป็นที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจผ่านความรู้สึก “FOMO (Fear of Missing Out)” หรือ อาการกลัวว่าจะตกกระแส, ความรู้สึก “FUD (Fear, Uncertainty, Doubt)” หรือความกลัว ไม่มั่นใจ สับสน รวมไปถึงความโลภ และความหวังอีกด้วย

การเทรด Grid ทำงานอย่างไร

คุณสามารถตั้งค่าชุด Order สำหรับการซื้อและขายผ่านทางบอทได้เสมอ ไม่ว่าราคาจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดก็ตาม หากราคาลดลงถึงเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ บอทจะดำเนินการ Order ซื้อทันที ส่วน Order ขายจะถูกสร้างใน Grid ถัดไป ณ จุดราคาที่สูงกว่าเสมอ แต่ถ้าหากราคาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งจนถึงจุดราคาของ Grid ถัดไป บอทจะดำเนินการ Order ขายทันที และกำไรจะถูกคำนวณจากความต่างของราคาที่เกิดขึ้นนั่นเอง

ลองดูจากตัวอย่างต่อไปนี้ของ Jane ที่ชอบเทรด BTC/USDT ในตลาด Spot เธอได้กำหนดช่วงการเทรดผ่านการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยระบุแนวต้านที่ 30,000 USDT และแนวรับที่ 20,000 USDT

Jane หวังจะใช้ Grid เป็นเครื่องมือเพื่อทำกำไรจากช่วงราคาที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งระบุสิ่งที่ต้องการจากการสร้าง Grid ขึ้นมา

Jane จึงตั้งค่า Grid ของเธอ ดังนี้:

ราคาตลาด (Market Price): 26,000 USDT

ราคาสูงสุด (Upper Price): 30,000 USDT

ราคาต่ำสุด (Lower Price): 20,000 USDT

จำนวน Grid: 5

ยอดการลงทุนสุทธิ: 10,000

ระบบจะทำการคำนวณว่าควรวาง Order เมื่อใด ด้วยจำนวนการซื้อ/ขายเท่าไร ซึ่งในสถานการณ์ตัวอย่างจะได้ผลลัพธ์ ดังนี้:

30,000 USDT: ขาย

27,500 USDT: ขาย

26,000 USDT: ราคาตลาด (ไม่มีการวาง Order)

25,000 USDT: ซื้อ

22,500 USDT: ซื้อ

20,000 USDT: ซื้อ

ผลลัพธ์ที่ 1:

หากราคาในปัจจุบัน คือ 25,000 USDT บอทจะดำเนินการ Order ซื้อทันที และ Order ขายจะถูกสร้างใน Grid ถัดไป แต่ถ้าหากราคาสูงขึ้นไปถึง 27,000 USDT บอทจะดำเนินการ Order ขายทันที พร้อมทั้งสร้าง Order ซื้อรายการใหม่ที่ราคา 25,000 USDT อีกครั้ง เมื่อครบกระบวนการดังที่กล่าวไปแล้วก็จะถือว่าการเทรด Grid เสร็จสมบูรณ์ และกำไรจะถูกคำนวณจากความต่างของราคาที่เกิดขึ้น

ผลลัพธ์ที่ 2:

หากราคาสูงขึ้นถึง 27,500 USDT เป็นครั้งแรก บอทจะไม่ดำเนินการ Order ซื้อ/ขายใดๆ เลย เนื่องจากไม่มี Position ปัจจุบันที่เปิดอยู่นั่นเอง อย่างไรก็ตามหากราคายังคงสูงขึ้นไปจนถึง 30,000 USDT บอทจะสร้าง Order ขายที่ราคา 30,000 USDT และสร้าง Order ซื้อที่ราคา 27,500 USDT ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะทำให้ Grid เกิดการเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการ

ถ้าหากราคาเทรดอยู่นอกเหนือขอบเขตราคาที่ตั้งค่าไว้ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น

บอทสำหรับการเทรด Grid จะทำงานภายใต้ขอบเขตราคาสูงสุด (Upper Price) และราคาต่ำสุด (Lower Price) ที่ตั้งค่าไว้เท่านั้น หากราคาของ BTC สูงกว่า 30.000 USDT หรือต่ำกว่า 20.000 USDT กลยุทธ์ดังกล่าวจะถูกระงับและบอทจะไม่สร้าง Order ใหม่ใดๆ ทั้งสิ้น

หากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น คุณสามารถเลือกที่จะปิดกลยุทธ์การเทรด Grid หรือรอให้ราคากลับเข้าสู่ช่วงราคาที่คุณกำหนดไว้ ซึ่งจะเป็นเวลาที่กลยุทธ์กลับมาทำงานต่อได้นั่นเอง

หมายเหตุ: เมื่อกลยุทธ์ถูกระงับแล้ว Position ต่างๆ ของคุณจะไม่ได้ถูกปิดโดยอัตโนมัติไปด้วย หากคุณต้องการปิด Position คุณต้องทำเครื่องหมายถูกในช่องปิด Position ด้วยตนเองเมื่อยุติกลยุทธ์ดังกล่าว

การเทรด Grid แบบคลาสสิก - คำถามที่พบบ่อย

Q: การเทรด Grid แบบคลาสสิก คืออะไร

A: การเทรด Grid แบบคลาสสิก คือ กลยุทธ์การซื้อในราคาต่ำและขายในราคาสูง (Buy Low, Sell High) เหมาะสำหรับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง กลยุทธ์นี้จะดำเนินการแบบอัตโนมัติ โดยจะมีการกำหนดช่วงราคา และแบ่งสินทรัพย์ออกเป็นจำนวนเท่าๆ กันอย่างเป็นระบบ เมื่อราคาสินทรัพย์ลดลง กลยุทธ์จะสร้าง Order ซื้อเป็นชุด แต่ถ้าหากราคาสินทรัพย์สูงขึ้น กลยุทธ์จะสร้าง Order ขายเป็นชุดแทน การทำเช่นนี้ ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาได้เป็นอย่างดี แล้วยังช่วยลดต้นทุนของการลงทุนระยะยาวด้วย

Q: สภาวะตลาดแบบใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเทรด Grid แบบคลาสสิก

A: กลยุทธ์การเทรดนี้จะทำงานได้ดีที่สุด เมื่อราคาของสินทรัพย์เคลื่อนไหวอยู่ภายใต้ช่วงราคาที่กำหนด ในกรณีดังกล่าว กลยุทธ์การเทรด Grid จะทำกำไรผ่านการซื้อในราคาต่ำ และขายในราคาสูงซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง

Q: การจ่ายชำระผลกำไรจากการเทรด Grid จะอยู่ในสกุลเงินหลัก หรือ สกุลเงินอ้างอิง

A: ผลกำไรจะได้รับการจ่ายชำระใน “สกุลเงินอ้างอิง” ในคู่เทรดใดๆ เหรียญที่อยู่ด้านซ้ายจะเรียกว่า “สกุลเงินหลัก” และเหรียญทางด้านขวาจะเรียกว่า “สกุลเงินอ้างอิง” หากใช้คู่เทรด BTC/USDT เป็นตัวอย่าง ผลกำไรจากการเทรด Grid แบบคลาสสิกจะได้รับการจ่ายชำระในสกุลเงิน USDT นั่นเอง

Q: คู่เทรดใดที่เหมาะสำหรับการเทรด Grid

A: หากคุณเป็นนักเทรดมือใหม่ คู่เทรดในกระแสหลัก เช่น BTC/USDT และ ETH/USDT อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าหากคุณรู้จักการเทรด Grid ดีแล้ว คุณอาจลองทำกำไรจากสกุลเงินอื่นๆ ที่มีความผันผวนมากกว่านั้นได้ อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้เสมอว่าผลตอบแทนที่สูงย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงสูงเช่นกัน

Q: การเทรด Grid แบบคลาสสิกจะสามารถทำกำไรได้เสมอใช่หรือไม่

A: คุณสามารถทำกำไรได้เสมอ หากราคาสินทรัพย์เคลื่อนไหวอยู่ภายใต้กรอบราคาที่กำหนด แต่ในกรณีที่เกิดการขาดทุนลอยตัวในตลาดขาลง คุณอาจขาดทุนได้เมื่อราคาในการถือ Position นั้นสูงกว่าราคาปัจจุบันของสินทรัพย์

Q: เพราะเหตุใดระบบจึงซื้อสกุลเงินหลักของคู่เทรดโดยอัตโนมัติในช่วงเริ่มต้นการเทรด

A: ระบบจำเป็นต้องซื้อสกุลเงินหลักไว้จำนวนหนึ่งในตอนเริ่มต้นเทรด เพื่อนำสินทรัพย์จำนวนนั้นไปขาย และทำกำไรเมื่อราคาของสินทรัพย์สูงขึ้น

Q: ระบบคำนวณจำนวนสกุลเงินหลักที่ต้องซื้อในช่วงเริ่มต้นการเทรดอย่างไร

A: จำนวนสกุลเงินหลักที่ซื้อ = จำนวน Order ขายที่รอดำเนินการ * จำนวนสกุลเงินหลักในแต่ละ Grid

Q: Stop Loss สามารถนำมาใช้ในการเทรด Grid ได้หรือไม่

A: ได้ คุณสามารถตั้งราคา Stop Loss ได้ในการตั้งค่าขั้นสูง เมื่อราคาธุรกรรมของสินทรัพย์อ้างอิงต่ำกว่าราคา Stop Loss บอทจะทำการขายสินทรัพย์ดังกล่าวโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการขาดทุนและปกป้องสินทรัพย์ของคุณ

Q: Take Profit สามารถนำมาใช้ในการเทรด Grid ได้หรือไม่

A: ได้ โดยขีดจำกัดราคาสูงสุดภายในช่วงราคาที่กำหนดไว้สำหรับการเทรด คือ ราคา Take Profit ของสินทรัพย์อ้างอิงด้วยเช่นกัน

Q: เป็นไปได้หรือไม่ว่าค่าธรรมเนียมการเทรดอาจสูงกว่าผลกำไรที่ฉันทำได้ในการเทรด Grid

A: เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในการเทรด Grid แบบคลาสสิก คุณจะสามารถวาง Order ได้ก็ต่อเมื่อกำไรนั้นมากกว่าค่าธรรมเนียม โดยปกติแล้ว คุณจะไม่สามารถชำระค่าธรรมเนียมที่มีมูลค่ามากกว่ากำไรของคุณได้นั่นเอง

Q: ฉันจะสามารถทำกำไรได้มากขึ้นหรือไม่ หากใช้ Grid จำนวนมากขึ้นกว่าเดิม

A: ไม่ เนื่องจาก กำไรจาก Grid = ส่วนต่างราคาภายใน 1 Grid * จำนวนการซื้อของ 1 Grid * จำนวน Order ขายที่ดำเนินการแล้ว จากสูตรคำนวณดังกล่าว คุณจะเห็นได้ว่าเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการทำกำไรนั้น คือ ราคาจะต้องเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้ขอบเขตที่กำหนดไว้เสมอ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มผลกำไรสูงสุด คือ การเพิ่มจำนวนธุรกรรมที่ได้รับการดำเนินการ และการเพิ่มกำไรต่อ 1 Grid จำนวน Grid ที่มากเกินไปสำหรับปริมาณตายตัวของสินทรัพย์ทั้งหมด จะทำให้ส่วนต่างราคาและปริมาณการซื้อของ 1 Grid ลดลง ซึ่งนำไปสู่การลดลงของกำไรต่อธุรกรรมด้วยเช่นกัน ดังนั้น จำนวน Grid ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำกำไรเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

Q: ฉันจะสามารถทำกำไรได้มากขึ้นหรือไม่ หากใช้กรอบราคาที่กว้างขึ้นกว่าเดิม

A: ไม่ เนื่องจาก กำไรจาก Grid = ส่วนต่างราคาภายใน 1 Grid * จำนวนการซื้อของ 1 Grid * จำนวน Order ขายที่ดำเนินการแล้ว หากคุณตั้งกรอบราคาที่กว้างขึ้น อาจทำให้ธุรกรรมที่ได้รับการดำเนินการนั้นน้อยลง การตั้งค่าจำนวน Grid และกรอบราคาที่เหมาะสม จึงไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัว อาจเป็นดั่งศิลปะที่ต้องใช้ประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์เลยก็ว่าได้

Q: มีใครบ้างไหมที่สามารถทำเงินได้จริงจากการเทรด Grid

A. ในฐานะที่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดที่คลาสสิกที่สุด การเทรด Grid ช่วยให้ผู้ใช้หลายคนทำกำไรมาแล้วมากมาย คุณสามารถดูผลตอบแทนของผู้ใช้คนอื่นๆ ได้ที่ลีดเดอร์บอร์ดของการเทรด Grid

Q: ถ้าใช้งานกลยุทธ์การเทรด Grid มาเป็นเวลา 3 วันแล้วแต่ได้ผลตอบแทนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ฉันควรล้มเลิกการเทรดเลยหรือเปล่า

A: โปรดอดทนและปล่อยให้เวลาทำหน้าที่ของมัน ถือเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งที่คุณจะได้รับผลตอบแทนเพียงเล็กน้อย หากคุณใช้งานกลยุทธ์มาเป็นเวลา 3-5 วัน ลองให้เวลาสัก 1 เดือนก่อน แล้วค่อยดูว่ากลยุทธ์ของคุณจะให้ผลลัพธ์อย่างไร นอกจากนั้น คุณยังสามารถพูดคุยกับผู้ใช้คนอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางดูได้อีกด้วยว่าคุณจะปรับพารามิเตอร์บางอย่างเพื่อเพิ่มผลกำไรได้บ้างหรือเปล่า

ข้อสงวนสิทธิ์:

ข้อมูลที่ถูกนำเสนอข้างต้นมีจุดประสงค์ในการให้ความรู้และความบันเทิงเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด โปรดศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเองหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการตัดสินใจลงทุนใน สินทรัพย์ดิจิทัล

ความคิดเห็นทั้งหมดบน Soapbox ของ Bitget (หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Soapbox”) เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลของนักเทรดที่ใช้งานแพลตฟอร์ม Bitget เท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Bitget หรือบริษัทพันธมิตรและหุ้นส่วนธุรกิจของเรา อีกทั้งความคิดเห็นใดๆ ของผู้เขียน Soapbox ล้วนอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่พวกเขายืนยันว่าเชื่อถือได้ ซึ่ง Bitget และบริษัทพันธมิตรไม่ได้มีส่วนการันตีความถูกต้องของข้อมูลเหล่านั้นแต่อย่างใดเช่นกัน