Ripple (XRP) ไม่ใช่หลักทรัพย์จริงหรือ อย่าเพิ่งรีบดีใจไป!
สรุปใจความสำคัญ
- XRP ถูกจัดประเภทให้เป็นหลักทรัพย์ในบางกรณีเท่านั้น และถึงแม้ว่าคำตัดสินดังกล่าวจะยังไม่เป็นที่สิ้นสุด แต่ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากประกาศคำตัดสินในเบื้องต้นนั้นราคาโทเค็น XRP ก็พุ่งสูงขึ้นไปกว่า 70% เลยทีเดียว
- Ripple ได้สร้างเครือข่ายการชำระเงินแบบเปิดที่ช่วยให้การโอนและการชำระเงินทั่วโลกทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ตลอดจนสามารถทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้นได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
- จุดแข็งของ Ripple คือความสามารถในการให้บริการเครือข่ายการชำระเงินระดับโลกที่รวดเร็ว คุ้มทุน และปลอดภัย
- XRP สามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการชำระเงินข้ามพรมแดน
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2023 ผู้พิพากษา Analisa Torres แห่งศาลแขวงนิวยอร์กใต้ (U.S. District Court for the Southern District of New York) ได้ประกาศคำพิพากษาโดยสรุปในคดี SEC vs. Ripple ที่เกี่ยวข้องกับการจัดประเภทโทเค็น XRP ของ Ripple ว่าเป็นหลักทรัพย์ในบางกรณีเท่านั้น และถึงแม้ว่าคำตัดสินดังกล่าวจะยังไม่เป็นที่สิ้นสุด แต่ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากประกาศคำตัดสินในเบื้องต้นนั้นราคาโทเค็น XRP ก็พุ่งสูงขึ้นไปกว่า 70% เลยทีเดียว นอกจากนี้ ตลาดคริปโตโดยรวมก็มีแนวโน้มขาขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน จากข้อมูลของ CoinGecko ชี้ว่ามูลค่าตามราคาตลาดของคริปโตทั้งหมดทะลุ 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งมีมูลค่าใน 24 ชั่วโมงพุ่งสูงถึง 6.6% โดยประมาณ กล่าวได้ว่า Ripple ได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ในการต่อสู้อันยาวนานกับ SEC โดยอิงตามข่าวข้างต้นนั้นเอง
ในขณะที่เรากำลังเฉลิมฉลองชัยชนะที่หาได้ยากในการปะทะระหว่างอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีและ SEC การพิจารณาให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่าแท้จริงแล้วเครือข่าย Ripple คืออะไรนั้นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ เช่นในประเด็นที่ว่าเครือข่าย Ripple มีจุดเด่นอย่างไร ศักยภาพและแนวโน้มของ XRP คืออะไรบ้าง เป็นต้น
Ripple คืออะไร
Ripple เป็นโปรโตคอลการชำระเงินที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้สถาบันการเงินสามารถชำระเงินข้ามพรมแดนได้อย่างรวดเร็วและคุ้มทุนมากขึ้น โดย Ripple นั้นแตกต่างจากคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ เช่น Bitcoin เพราะ Ripple ได้สร้างเครือข่ายการชำระเงินแบบเปิดที่ช่วยให้การโอนและการชำระเงินทั่วโลกทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ตลอดจนสามารถทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้นได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เมื่อเปรียบเทียบกับการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบดั้งเดิมพบว่า Ripple ไม่มีค่าธรรมเนียมการชำระเงินระหว่างธนาคารหรือระหว่างประเทศ ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่ำมากอย่างเห็นได้ชัด
ดูเพิ่มเติม: Ripple และ XRP คืออะไร
Ripple ทำงานอย่างไร
Ripple ใช้เทคโนโลยี Distributed Ledger เพื่อประมวลผลการชำระเงินข้ามพรมแดน เมื่อสถาบันการเงินต้องการส่งสินทรัพย์ไปยังสถาบันการเงินในประเทศอื่น Ripple จะแปลงสินทรัพย์เหล่านั้นให้เป็นโทเค็น XRP และโอนผ่านเครือข่าย Ripple เรียกได้ว่ากระบวนการนี้มีประสิทธิภาพสูงอย่างยิ่ง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสามารถดำเนินการธุรกรรมให้เสร็จสิ้นได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
ข้อดีอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ripple คืออะไร
ข้อดีของ Ripple อยู่ที่การให้บริการวิธีการชำระเงินที่รวดเร็ว คุ้มค่า และปลอดภัย
ค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่ำ: Ripple ช่วยให้การทำธุรกรรมเสร็จสิ้นได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที โดยมีค่าธรรมเนียมต่ำมากเมื่อเทียบกับวิธีการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบดั้งเดิม
การไม่เปิดเผยตัวตน: เครือข่าย Ripple ไม่ได้กำหนดให้ผู้ใช้เปิดเผยอีเมล ชื่อ หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใด เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความเป็นส่วนตัวในระดับที่สมเหตุสมผล
ความปลอดภัย: การส่งโทเค็น XRP ก็เหมือนกับการส่งเงินสดโดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเมื่อได้รับโทเค็น ซึ่งแตกต่างจากบัตรเครดิตหรือเช็คที่ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงได้อีกต่างหาก
ความน่าเชื่อถือ: ธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนเครือข่าย Ripple นั้นไม่สามารถดำเนินการย้อนกลับได้เนื่องจากคุณสมบัติตามธรรมชาติของเครือข่ายที่มีลักษณะไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ (Immutable) ดังนั้น ผู้ค้าจึงสามารถทำธุรกรรมกับใครก็ได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกังวลว่าธุรกรรมจะถูกย้อนคืนหรือยกเลิก
เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น XRP
XRP เป็นเครื่องมือการชำระเงินบนแพลตฟอร์ม Ripple โดย Ripple ได้เปิดตัว XRP ให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อแข่งขันกับสื่อกลางในการทำธุรกรรมอื่นๆ ที่ใช้บนแพลตฟอร์ม ภายใต้จุดมุ่งหมายในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการโอนเงิน โทเค็น XRP นี้มีอุปทานทั้งหมด 1 แสนล้านโทเค็น โดย Ripple Labs ถือครอง 8 หมื่นล้านโทเค็น และอีก 2 หมื่นล้านโทเค็นจะถูกสำรองไว้สำหรับการให้รางวัล Node และการชำระค่าธรรมเนียมธุรกรรม
นอกจากนั้น โปรโตคอล Ripple ยังกำหนดให้ทุกบัญชีหรือ Wallet บนเครือข่ายมียอดคงเหลือขั้นต่ำ 20 XRP เพื่อเปิดใช้งาน Wallet อีกด้วย ทั้งนี้ ในการทำธุรกรรมแต่ละครั้งจะมีหนึ่งใน 1 แสน XRP (0.00001) ถูกทำลาย ซึ่งหมายความว่าจำนวนโทเค็น XRP ทั้งหมดจะยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ระบบนิเวศของ Ripple ถูกนำไปใช้งานอย่างกว้างขวางมากขึ้น กล่าวคือ โมเดลเศรษฐกิจแบบมีภาวะเงินฝืด (Deflationary) เช่นนี้ช่วยทำให้มั่นใจได้ว่ามูลค่าของโทเค็น XRP จะมีความมั่นคงอยู่เสมอนั่นเอง
กรณีการใช้งานสำหรับ Ripple
โปรเจกต์ Ripple ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเพื่อก่อตั้งเครือข่ายการชำระราคา P2P แบบกระจาย (Distributed P2P Settlement Network) ดังนั้น XRP จีงมีการนำไปใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการชำระเงินข้ามพรมแดน กล่าวคือ สถาบันการเงินหลายแห่งได้เริ่มใช้เครือข่าย Ripple สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนแล้ว เพราะเครือข่ายนี้มีความรวดเร็วมากกว่า คุ้มทุนกว่า และปลอดภัยกว่าวิธีการแบบดั้งเดิม ยิ่งไปกว่านั้น Ripple ยังสามารถนำไปใช้ในบริการทางการเงินอื่นๆ เช่น การจัดการสินทรัพย์และการให้กู้ยืมได้อีกด้วย
วิธีซื้อและเก็บโทเค็น XRP
คุณสามารถซื้อโทเค็น XRP ได้จากหลายวิธี ซึ่งหนึ่งในวิธีที่สะดวกที่สุด คือ การซื้อผ่านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี เช่น Bitget นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกใช้ Wallet สำหรับคริปโตเพื่อเก็บและจัดการโทเค็น XRP ของคุณด้วยตนเองได้อีกเช่นกัน
เทรด XRP บน Bitget
สรุปปิดท้าย
ในฐานะคริปโทเคอร์เรนซีชั้นนำติดอันดับ 1 ใน 5 ด้านมูลค่าตามราคาตลาดทั่วโลก Ripple ถือเป็นโปรเจกต์คริปโตและโปรโตคอลการชำระเงินที่มีแนวโน้มน่าสนใจและดูมีอนาคตไกลเลยทีเดียว Ripple มีทั้งความรวดเร็ว คุ้มทุน และปลอดภัย รวมถึงมีการนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลายในการชำระเงินข้ามพรมแดน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ในวงการคริปโตหรือเป็นนักเทรดมากประสบการณ์ Ripple ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าแก่การพิจารณาอย่างแน่นอน
ข้อสงวนสิทธิ์: รายชื่อผลิตภัณฑ์และโปรเจกต์ทั้งหมดที่ปรากฏในบทความนี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด
- วิธีถอนโทเค็น CATS จาก Telegram แล้วฝากเข้า Bitget2024-10-01 | 5m
- ฝาก CATI เข้า Bitget ไร้ค่า Gas2024-09-14 | 5m