อภิธานศัพท์ USDT-M Futures ในโหมดหลายสินทรัพย์

โหมดหลายสินทรัพย์:

USDT-M Futures มีให้ทั้งโหมด Margin สินทรัพย์เดี่ยวและโหมด Margin หลายสินทรัพย์ โดยในโหมด Margin สินทรัพย์เดี่ยวจะใช้เฉพาะ USDT เท่านั้นเป็น Margin ขณะที่ในโหมด Margin หลายสินทรัพย์สามารถใช้เหรียญอื่นๆ เป็น Margin สำหรับการเทรด USDT-M Futures ได้ ในโหมด Margin หลายสินทรัพย์ สามารถใช้เหรียญใดเป็น Margin ก็ได้ แต่การประเมินมูลค่าจะปรับตามอัตรา Haircut ของเหรียญนั้น เช่น หากราคาดัชนีของเหรียญอยู่ที่ 1,000 USDT โดยมี Haircut ที่ 95% ก็จะนับมูลค่าเพียง 950 USDT เท่านั้นเป็น Margin

สินทรัพย์ของบัญชี:

สินทรัพย์เหรียญในบัญชี USDT-M Futures ไม่รวม Unrealized PNL หมายถึงจำนวนที่เหลืออยู่ของเหรียญนั้นใน USDT-M Futures ในโหมดหลายสินทรัพย์

หลายสินทรัพย์:

หลายสินทรัพย์ = (Equity ของเหรียญ 1 × Haircut ของเหรียญ 1) + (Equity ของเหรียญ 2 × Haircut ของเหรียญ 2) + … + (Equity ของเหรียญ N × Haircut ของเหรียญ N) Equity ของเหรียญ = สินทรัพย์ของบัญชีของเหรียญเป็น USDT + Unrealized PNL ตัวอย่าง: หากคุณมี 0.1 BTC และ 1,000 USDT สมมติว่าราคาดัชนีของ BTC อยู่ที่ 10,000 USDT โดยมี Haircut ที่ 90% สำหรับ BTC มูลค่า 1,000 USDT ก็จะคำนวณ Equity ของ BTC ได้ที่: 0.1 × 10,000 + 0 = 1,000 USDT และเนื่องจาก Unrealized PNL ของ USDT-M Futures จะคำนวณเป็น USDT จึงทำให้ Unrealized PNL ของ BTC เป็น 0 เมื่อได้ Equity ของ USDT ออกมาที่ 1,000 USDT แล้ว ก็จะคำนวณหลายสินทรัพย์ได้ที่: Equity ของ BTC × Haircut ของ BTC + Equity ของ USDT × Haircut ของ USDT = 900 + 1,000 = 1,900 USDT

Margin คงเหลือ

แต่ละเหรียญจะมี Margin คงเหลือ ซึ่งคำนวณได้ด้วยสูตรต่อไปนี้: Margin คงเหลือสำหรับเหรียญ = สินทรัพย์ของบัญชีของเหรียญ - จำนวนของเหรียญที่ถูกระงับไว้ - Margin ที่ใช้สำหรับ Position ที่ใหญ่กว่า + Unrealized PNL ของเหรียญภายใต้โหมด Cross Margin โดยสำหรับ USDT-M Futures ในโหมดหลายสินทรัพย์นั้น หากคุณมี 0.1 BTC แล้วสมมติว่าราคาดัชนีอยู่ที่ 10,000 USDT โดยมี Haircut ที่ 90% ก็หมายความว่าสินทรัพย์ของบัญชีของคุณสำหรับ USDT จะเป็น 1,000 USDT และหากมี Unrealized PNL ที่ 200 USDT และมี Position Margin ที่ 500 USDT ก็จะคำนวณ Margin คงเหลือของ BTC ได้ที่: 0.1 × 1,000 × 0.9 = 900 USDT เนื่องจาก USDT-M Futures ใช้ USDT เป็นเหรียญที่ชำระราคา จึงไม่มี PNL หรือสินทรัพย์ที่ถูกระงับเป็น BTC ทำให้คำนวณ Margin คงเหลือสำหรับ USDT ได้ที่: 1,000 + 200 - 500 = 700 USDT

ที่ใช้ได้:

Margin ที่ใช้ได้ในการเปิด Position = ผลรวมของ Margin คงเหลือสำหรับเหรียญทั้งหมด - Margin ขั้นต้นสำหรับหนี้สิน โดยที่ Margin ขั้นต้นสำหรับหนี้สิน = มูลค่าสัมบูรณ์ของหนี้สิน × อัตรา Margin ขั้นต้นสำหรับหนี้สิน ซึ่งมีการกำหนดอัตรา Margin ขั้นต้นสำหรับหนี้สินไว้ที่ 10% และหากมีการเปลี่ยนแปลงอัตราในอนาคต ก็จะมีการประกาศให้ทราบล่วงหน้า ตัวอย่าง: หากคุณมีหนี้สิน 100 USDT ก็จะคำนวณ Margin ขั้นต้นสำหรับหนี้สินก้อนนี้ได้ที่: 100 × 10% = 10 USDT

Maintenance Margin:

Maintenance Margin A = มูลค่า Position ของคู่เทรด Cross Margin A × MMR ที่กำหนด + มูลค่า Position ของคู่เทรด Cross Margin B × MMR ที่กำหนด + … + มูลค่า Position ของคู่เทรด Cross Margin N × MMR ที่กำหนด ในขณะที่ Maintenance Margin B = Maintenance Margin ของหนี้สิน ทำให้คำนวณได้เป็น Maintenance Margin ทั้งหมด = max(Maintenance Margin A, Maintenance Margin B) โดยที่ Maintenance Margin ของหนี้สิน = มูลค่าสัมบูรณ์ของหนี้สิน × อัตรา Maintenance Margin ของหนี้สิน ซึ่งมีการกำหนดอัตรา Maintenance Margin ของหนี้สินไว้ที่ 5% ในขณะที่ Maintenance Margin A = ผลรวมของมูลค่า Position ของคู่ Cross Margin ทั้งหมด × อัตรา Maintenance Margin ตามระดับขั้นที่กำหนด การคำนวณนี้จะเหมือนกับ USDT-M Futures แบบคลาสสิก

อัตรา Maintenance Margin:

อัตรา Maintenance Margin = Maintenance Margin ÷ หลายสินทรัพย์

Haircut:

หมายถึงอัตรา Haircut เมื่อแปลงสกุลเงิน Margin ไปเป็น USDT ตัวอย่าง: เมื่อ Haircut ของเหรียญอยู่ที่ 90% ก็จะคำนวณมูลค่าของเหรียญเป็น USDT ได้ที่: 90% × ปริมาณของเหรียญ × ราคาดัชนีของเหรียญ โดยที่ Haircut สำหรับแต่ละเหรียญนั้นมีการกำหนดไว้เป็นระดับขั้น ซึ่งเข้าไปดูได้ในกฎการ เทรด Futures

อัตราการแปลง:

จะมีการใช้อัตราการแปลงในช่วงระหว่างการแปลง จำนวนที่แปลง = ปริมาณที่แปลง × ราคาดัชนีของเหรียญ × อัตราการแปลง โดยอัตราการแปลงนั้นมีการกำหนดไว้เป็นระดับขั้น หมายความว่ายิ่งมีจำนวนมาก อัตราการแปลงก็จะยิ่งต่ำ

การแปลงมีด้วยกัน 3 สถานการณ์ดังนี้:

1. การสลับจากโหมดหลายสินทรัพย์ไปเป็นโหมดสินทรัพย์เดี่ยว: หากผู้ใช้มี USDT ไม่เพียงพอ ก็สามารถแปลงเหรียญอื่นในบัญชี USDT-M Futures ของตนไปเป็น USDT ได้

2. หนี้สินเกินขีดจำกัดหนี้สินรายบุคคล: เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น จะมีการทริกเกอร์ระบบควบคุมความเสี่ยง และจะมีการแปลงเหรียญอื่นๆ เพื่อนำไปชำระคืนหนี้สิน

3. ความเสี่ยงจาก Liquidation ทั้งหมดหรือบางส่วน: ในกรณีเช่นนี้ ระบบจะแปลงเหรียญอื่นๆ เพื่อนำไปชำระคืนหนี้สินและลดความเสี่ยง

หนี้สิน:

ในโหมดหลายสินทรัพย์ หนี้สินจะเกิดขึ้นเมื่อสินทรัพย์ของเหรียญติดลบ หนี้สิน = min(0, Equity ของเหรียญ) โดยที่ Equity ของเหรียญ = สินทรัพย์ของบัญชี + Unrealized PNL ซึ่งสำหรับ USDT-M Futures ในโหมดหลายสินทรัพย์นั้น มีเพียง USDT เท่านั้นที่จะเกิดหนี้สิน

จำนวนที่ปลอดดอกเบี้ย:

จำนวนที่ปลอดดอกเบี้ยนั้นใช้กับหนี้สินที่เกิดจากการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง คำนวณได้จาก: จำนวนที่ปลอดดอกเบี้ย = min(abs(min(0, Unrealized PNL)), ขีดจำกัดปลอดดอกเบี้ย) โดยที่จำนวนที่มีภาระดอกเบี้ย = max(0, (หนี้สิน - จำนวนที่ปลอดดอกเบี้ย)) ซึ่งขีดจำกัดปลอดดอกเบี้ยมีการกำหนดไว้ที่ 20,000 USDT

ดอกเบี้ย:

จำนวนที่มีภาระดอกเบี้ยคำนวณได้โดยคูณอัตราดอกเบี้ยที่กำหนด ซึ่งระบบจะเรียกเก็บดอกเบี้ยทุกชั่วโมง โดยเมื่อถึงเวลาเรียกเก็บดอกเบี้ย ก็จะมีการประเมินจำนวนที่มีภาระดอกเบี้ยเพื่อเรียกเก็บ ระบบจะดึงข้อมูลรายละเอียดหนี้สินเมื่อเริ่มต้นแต่ละชั่วโมง (เวลาไทย) เช่น ระบบจะเรียกเก็บดอกเบี้ย 1 ครั้งเมื่อครบชั่วโมงนาฬิกา โดย ณ เวลา 7:00 น. (เวลาไทย) จำนวนดอกเบี้ยที่ต้องชำระคือ 100 USDT ดังนั้นจะมีการเรียกเก็บหนี้สิน 100 USDT

วงเงินกู้ยืม:

เพื่อให้ควบคุมความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น จึงมีการกำหนดขีดจำกัดสูงสุดสำหรับหนี้สินของผู้ใช้ เมื่อเกินขีดจำกัดนี้ ก็จะเป็นการไปทริกเกอร์ระบบการแปลงเพื่อชำระคืนโดยอัตโนมัติ วงเงินกู้ยืมปัจจุบันกำหนดไว้ที่ 600,000 USDT กรณีที่มีหนี้สินสูงเกินไป ระบบจะทำการแจ้งเตือนล่วงหน้า

การชำระคืน:

สถานการณ์การชำระคืน:

1. การชำระคืนแบบแอคทีฟ: หากมีหนี้สินเกิดขึ้น ผู้ใช้สามารถกดปุ่ม “ชำระคืน / Repay” เพื่อชำระคืนหนี้สินได้ หรือเลือกที่จะแปลงหรือโอนก็ได้เช่นกัน

2. ระบบจะทริกเกอร์การชำระคืนโดยอัตโนมัติเมื่อชนเพดานวงเงินกู้ยืม

3. ระบบจะเปิดใช้งานการชำระคืนโดยอัตโนมัติเช่นกันเมื่อมีการทริกเกอร์ระบบควบคุมความเสี่ยง Liquidation