ที่เกี่ยวข้องกับเหรียญ
เครื่องคำนวณราคา
ประวัติราคา
การคาดการณ์ราคา
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
คู่มือการซื้อเหรียญ
หมวดหมู่คริปโต
เครื่องคำนวณกำไร
ที่เกี่ยวข้องกับการเทรด
ซื้อ/ขาย
การฝาก/การถอน
Spot
Margin
USDT-M Futures
Coin-M Futures
บอทเทรด
Copy Trading
Earn
Pre-Market
Celestia (TIA) คืออะไร
ข้อมูลพื้นฐาน Celestia
Celestia คืออะไร
Celestia เป็นเครือข่ายบล็อกเชนแบบ Modular เครือข่ายแรกที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับ Blockchain Trilemma ที่มีมาอย่างยาวนาน คือ ความสามารถในการขยายการรองรับ ความปลอดภัย และการกระจายศูนย์ ซึ่งบล็อกเชนแบบดั้งเดิมที่มีโครงสร้างแบบ Monolithic มักจะเผชิญกับความท้าทายในการสร้างสมดุลของคุณสมบัติหลักทั้ง 3 ข้อนี้ อย่างไรก็ตาม Celestia นำเสนอแนวทางแบบ Modular โดยแยกฟังก์ชันหลักของบล็อกเชนออกเป็น Layer ที่แตกต่างกัน การออกแบบนี้ไม่เพียงเพิ่มความสามารถในการขยายการรองรับเท่านั้น แต่ยังทำให้มั่นใจถึงความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและรักษาการกระจายศูนย์ไว้ได้อีกด้วย โดยพื้นฐานแล้ว Celestia มุ่งเน้นไปที่ความพร้อมใช้งานของข้อมูลและฉันทามติ ซึ่งช่วยให้โปรเจกต์และ Chain อื่นๆ สามารถสร้างบนเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมของเครือข่ายได้
ความต้องการบล็อกเชนแบบ Modular อย่าง Celestia เกิดขึ้นจากข้อจำกัดของบล็อกเชนแบบ Monolithic ซึ่งจัดการฟังก์ชันหลักทั้งหมดบน Chain เดียว ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการ การชำระราคา ฉันทามติ และความพร้อมใช้งานของข้อมูล ซึ่งมักจะนำไปสู่ปัญหาคอขวด (Bottleneck) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการใช้งาน Chain พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในทางกลับกัน การออกแบบเชิง Modular (Modular Design) ของ Celestia นำเสนอโซลูชันการขยายการรองรับที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยการแยกฟังก์ชันเหล่านี้ออกจากกัน ส่งผลให้ระบบมีความยืดหยุ่นและแข็งแกร่งมากขึ้น
แหล่งข้อมูล
เอกสารทางการ: https://docs.celestia.org/learn/how-celestia-works/overview
เว็บไซต์ทางการ: https://celestia.org/
Celestia ทำงานอย่างไร
Celestia ทำงานเป็นบล็อกเชน Layer-1 แบบแยกส่วน โดยมุ่งเน้นที่การจัดระเบียบธุรกรรมและรับรองความพร้อมใช้งานของข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งหลีกเลี่ยงการจัดการ Smart Contract หรือการประมวลผล โดยมอบหมายงานดังกล่าวให้กับ Rollup หรือบล็อกเชนอื่นๆ การมุ่งเน้นที่ความสามารถในการทำงานแยกส่วน (Modularity) และความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมการดำเนินการของตนเอง โดยเน้นไปที่การเลือก Layer การดำเนินการและการชำระราคาที่ต้องการ ขณะเดียวกันก็ใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันความพร้อมใช้งานของข้อมูลที่ไม่มีใครเทียบได้ของ Celestia
รากฐานสำคัญของเทคโนโลยีของ Celestia คือหลักฐานความพร้อมใช้งานของข้อมูล โดยหลักฐานเหล่านี้สร้างขึ้นจากเทคนิคที่เรียกว่า Erasure Coding ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลทั้งหมดมีการเผยแพร่ไปยังเครือข่ายโดยใช้เพียงเศษเสี้ยวของบล็อก ซึ่งระบบนี้อนุญาตให้ Node ร้องขอส่วนของบล็อกแบบสุ่มเพื่อยืนยันความพร้อมของข้อมูล ด้วยกลไกนี้ Celestia จึงรับประกันความพร้อมใช้งานของข้อมูลสำหรับทุก Chain ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ Celestia ยังใช้การสุ่มตัวอย่างความพร้อมใช้งานของข้อมูล (DAS) เพื่อให้มีความเป็นเลิศในด้านความพร้อมใช้งานของข้อมูล ซึ่งวิธีการนี้ทำให้ Light Node หลายรายการสามารถตรวจสอบว่าข้อมูลได้รับการเข้ารหัสอย่างถูกต้องด้วยการสุ่มตัวอย่างธุรกรรมแบบบล็อกหรือไม่ เมื่อใช้ร่วมกับ Erasure Encoding ก็จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะถูกส่งและจัดเก็บอย่างปลอดภัย พร้อมข้อกำหนดสำหรับการกู้คืนข้อมูลหากมีส่วนใดส่วนหนึ่งสูญหายระหว่างการส่ง
โทเค็น TIA คืออะไร
TIA ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของบล็อกเชน Celestia มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ โดยมีการนำไปใช้งานหลากหลายดังนี้
- กระตุ้นให้เกิด Rollup ใหม่ๆ: นักพัฒนาสามารถใช้โทเค็น TIA เพื่อเปิดตัวบล็อกเชนได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องออกโทเค็นใหม่ โดย TIA สามารถทำหน้าที่เป็นโทเค็น Gas และสกุลเงิน ช่วยให้นักพัฒนามุ่งเน้นไปที่การสร้างแอปพลิเคชันหรือ Layer การดำเนินการของตนได้
- การจ่ายเงินสำหรับ Blobspace: หากต้องการเผยแพร่ข้อมูลบน Celestia และใช้บล็อกเชนเพื่อความพร้อมใช้งานของข้อมูล นักพัฒนาจะส่งธุรกรรม PayForBlobs ซึ่งธุรกรรมเหล่านี้จำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียมที่ชำระด้วยโทเค็น TIA
- รางวัลจากการ Stake: Celestia ซึ่งใช้กลไกฉันทามติ Proof-of-Stake ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ Delegate โทเค็น TIA ของตนให้กับ Validator เพื่อแลกกับส่วนแบ่งรางวัลจากการ Stake ของ Validator
- การกำกับดูแลแบบกระจายศูนย์: ผู้ถือโทเค็น TIA มีสิทธิ์โหวตและส่งข้อเสนอการกำกับดูแลเพื่อให้มั่นใจถึงกระบวนการตัดสินใจแบบกระจายศูนย์ภายในเครือข่าย Celestia
ในแง่เศรษฐศาสตร์ของโทเค็น (Tokenomics) นั้น TIA มีอุปทานทั้งหมด 1 พันล้าน โดยมีอุปทานหมุนเวียนเริ่มแรก 141 ล้าน โทเค็นมีกำหนดการปรับอัตราเงินเฟ้อเริ่มต้นที่ 8% ในปีแรก และลดลง 10% ต่อปีจนถึง Floor ที่ 1.5%
สิ่งใดเป็นตัวกำหนดราคาของ Celestia
เช่นเดียวกับคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ ราคาของ Celestia ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยมากมายที่มีรากฐานมาจากความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างอุปสงค์กับอุปทานภายในระบบนิเวศบล็อกเชน โดยปัจจัยหลักประการหนึ่งคือประโยชน์ใช้สอยภายในเครือข่าย Celestia และในฐานะที่ TIA เป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Celestia ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบ Modular จึงมีการนำไปใช้งานหลากหลาย ตั้งแต่กระตุ้นให้เกิด Rollup ใหม่ๆ ไปจนถึงการอำนวยความสะดวกในการกำกับดูแลแบบกระจายศูนย์ ยิ่ง TIA มีการเชื่อมต่อและมีความสำคัญมากขึ้นในการดำเนินงานบล็อกเชนและแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นบน Celestia อุปทานก็จะยิ่งสูงขึ้น ซึ่งอาจผลักดันราคาให้สูงขึ้นได้
ความเชื่อมั่นของตลาดที่ได้รับแรงหนุนจากข่าว ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี พันธมิตร และปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคในวงกว้าง ยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาของ Celestia โดยการพัฒนาเชิงบวก เช่น การอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ประสบความสำเร็จหรือความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ สามารถเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนำไปสู่ราคาที่พุ่งสูงขึ้นได้ ในทางกลับกัน ความท้าทายด้านการกำกับดูแลหรือถูกเจาะระบบความปลอดภัยอาจทำให้ความกระตือรือร้นลดลง ซึ่งจะเป็นแรงที่กดมูลค่าของโทเค็นให้ลดต่ำลงได้ นอกจากนี้ เนื่องจากตลาดคริปโทเคอร์เรนซีขึ้นชื่อในเรื่องความผันผวน การเทรดเพื่อเก็งกำไรจึงอาจนำไปสู่ความผันผวนของราคาได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น นักลงทุนและนักเทรดจึงจับตาดูภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของแวดวงบล็อกเชนและคริปโต เพื่อประเมินทิศทางที่อาจเป็นไปได้ของราคา Celestia
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนหรือเทรด TIA อาจสงสัยว่าจะซื้อ Celestia ได้ที่ไหน คุณสามารถซื้อ Celestia จากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนชั้นนำ เช่น Bitget ซึ่งนำเสนอแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและใช้งานง่ายสำหรับผู้ที่ชื่นชอบคริปโทเคอร์เรนซี
อุปทานและเศรษฐศาสตร์ของโทเค็น TIA
ลิงก์
โอกาสในการพัฒนาและมูลค่าในอนาคตของ TIA เป็นเช่นไร
มูลค่าตลาดของ TIA ปัจจุบันอยู่ที่ $2.21B และอันดับในตลาดอยู่ที่ #52 มูลค่าของ TIA ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากตลาด เมื่อตลาดกระทิงมาถึง มูลค่าตลาดของ TIA ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ยิ่งไปกว่านั้น หาก TIA สามารถมีบทบาทมากขึ้นได้ในแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้จริง เช่น Celestia Builder ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ TIA ได้อย่างเต็มที่ จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับธุรกิจมากขึ้น และเพิ่มฐานผู้ใช้ มูลค่าในระยะยาวของ TIA ก็จะยกระดับขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ